Advertisement
Not a member of Pastebin yet?
Sign Up,
it unlocks many cool features!
- ด้านล่างนี้เป็นสรุปเนื้อหาของภาค V3 เวอร์ชั่น 0.1 ครับ
- ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าเนื้อหาภาคนี้มีเยอะค่อนข้างมาก + หลังจากแอดเล่นจบแอดก็รีบมาเขียนรายละเอียด อาจจะผิดหรือตกหล่นอะไรไปบ้าง (ซึ่งจะค่อยๆทยอยเขียนเวอร์ชั่นใหม่แก้ออกมาเรื่อยๆ)
- ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็ เชิญพบกับสุดยอดเรื่องราวแห่งการ "โกหก" "นิวดันกันรอนปะ V3 เทอมใหม่แห่งการฆ่ากันของทุกคน" ได้เลย
- -----------------------------------------
- Prologue
- "อาคามัตซึ คาเอเดะ" ตื่นขึ้นมาในล็อกเกอร์ ความทรงจำล่าสุดของเธอคือถูกจับตัวมา และเมื่อเธอสำรวจห้องเรียนเธอก็พบกับ เด็กผู้ชายอีกคนที่เหมือนจะถูกจับมาด้วย ในขณะที่ทั้งสองคนออกจากห้อง ทั้งคู่โดนไล่ล่าโดยเครื่องจักร "เอ็กซารุ" คาเอเดะกับเด็กผู้ชายหนีไปจนถึงโรงยิมแล้วก็ได้เจอคนอื่นๆอีก 14 คน หนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นแนะนำว่าตัวเองชื่อ "อามามิ รันทาโร่" และดูเหมือนเขาดูจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ตอนนั้นพวกเอ็กซารุก็เข้ามา พร้อมกับโชว์ตัวคนขับของพวกมัน หมีตัวเล็กประหลาดห้าตัวห้าสีที่ใช้ชื่อว่า "โมโนคุมาร์ส"
- หนึ่งในโมโนคุมาร์ส "โมโนคิด" บอกพวกคาเอเดะออกไปว่าเขาจับพวกเธอมาในช่วงระหว่างการ "ล่าสุดยอดนักเรียน" เพราะว่าพวกเธอเป็นสุดยอดนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษที่ชื่นชม แต่คาเอเดะจำไม่ได้ว่าตัวเธอเคยมีอะไรแบบนั้น ก่อนที่โมโนคิดจะเปรยๆไปว่า ท่าทางพวกคาเอเดะยังไม่ได้ความทรงจำแรกคืน พร้อมกับทำการ แปลงร่าง?(เปลี่ยนชุด) ทั้ง 16 คนจากชุดนักเรียนปกติเป็นชุดที่สมกับเป็นตัวละครในดันกันรอนปะ ก่อนจะใช้อุปกรณ์แปลกๆที่เป็นไฟฉาย ยิงใส่พวกคาเอเดะ
- คาเอเดะฟื้นขึ้นมาในห้องเรียนอีกทีในล็อกเกอร์ (มุมมองตอนนี้คาเอเดะจำเหตุการณ์ตอนแรกไม่ได้) เมื่อสำรวจล็อกเกอร์ข้างๆก็เจอกับ เด็กผู้ชายซึ่งเขาแนะนำตัวว่าชื่อ "ไซฮาระ ชูอิจิ" สุดยอดนักเรียนนักสืบ ซึ่งทั้งคู่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในโรงเรียนประหลาด แล้วเริ่มออกเดินทางไปรอบๆโรงเรียนเพื่อพบกับคนอื่นๆอาทิเช่น
- อามามิ รันทาโร่ สุดยอดนักเรียน ??? ที่จำความสามารถตัวเองไม่ได้
- "โคคิจิ โอมะ" สุดยอดนักเรียนท่านผู้นำ
- "คีย์โบ" สุดยอดนักเรียนหุ่นยนต์
- "โฮชิ เรียวมะ" สุดยอดนักเรียนนักเทนนิส
- "โกคุฮาระ กอนตะ" สุดยอดนักเรียนด็อกเตอร์แมลง
- "ชินงูจิ โคเรคิโยะ" สุดยอดนักเรียนนักคติชนวิทยา
- "โมโมตะ ไคโตะ" สุดยอดนักเรียนนักบินอวกาศ
- "อิรุมะ มิอุ" สุดยอดนักเรียนนักประดิษฐ์
- "ชาบาชิระ เทนโกะ" สุดยอดนักเรียนปรมาจารย์ไอคิโด้
- "โยนากะ แองจี้" สุดยอดนักเรียนชมรมศิลปะ
- "ฮารุคาว่า มากิ" สุดยอดนักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก
- "ชิโรกาเนะ สึมุกิ" สุดยอดนักเรียนคอสเพลย์เยอร์
- "โทโจ คิรูมิ" สุดยอดนักเรียนเมด
- "ยูเมโนะ ฮิมิโกะ" สุดยอดนักเรียนนักมายากล ที่เรียกตัวเองว่าสุดยอดนักเรียนผู้ใช้เวทมนต์
- หลังจากเจอทุกคน พวกคาเอเดะถูกเรียกไปที่โรงยิม เพื่อพบกับพวกโมโนคุมาร์สและ โมโนคุมะ มันบอกว่ามันจะเริ่มเกมฆ่ากันในโรงเรียนไซชูแห่งนี้ แล้วอัพเดตกฎใส่โมโนแพดของทุกคนลงไป เกมแห่งการฆ่ากันที่ถ้ามีคนตาย คนที่เหลือจะต้องทำการสืบสวนในศาลชั้นเรียนและโหวตฆาตกร ถ้าโหวตได้ถูกฆาตกรจะถูกประหารแต่ถ้าผิดฆาตกรจะเป็นอิสระและทุกคนจะถูกประหารแทน
- บทที่ 1
- คาเอเดะที่พูดให้กำลังใจทุกคนจนรู้สึกดีขึ้น ทำให้อามามิเสนอว่าคาเอเดะน่าจะเป็นหัวหน้าหรือผู้นำกลุ่มของทุกคนโดยธรรมชาติ ซึ่งคาเอเดะนั้นพยามหาทางหนีออกไปจากที่นี้ และได้พบว่าที่ท่อน้ำมีทางออกอยู่ คาเอเดะเลยพาทุกคนและตัดสินใจจะให้ฝ่าออกไปให้ได้ (เป็นมินิเกม) แต่เพราะกับดักมากมายที่ถูกตั้งเอาไว้ทำให้ทั้งหมดถอนใจกันซะก่อน จากนั้นในวันรุ่งขึ้น โมโนคุมะได้เริ่มประกาศ "ไทม์ลิมิต" ขึ้นมา ถ้าไม่มีการฆ่ากันก่อนจะถึงวันที่กำหนดทุกคนก็จะถูกฆ่าตาย คาเอเดะที่ร้อนรนเลยปรึกษากับไซฮาระ และทั้งหมดก็สำรวจโรงเรียนจนเจอห้องลับที่ซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือ แต่เพราะต้องใช้คีย์การ์ดเลยไม่สามารถเข้าได้ ไซฮาระเลยเสนอแผนจับตัวผู้บงการให้กับคาเอเดะแทน โดยไซฮาระกับคาเอเดะได้ไปขอร้องให้มิอุทำเซ็นเซอร์กับกล้องประดิษฐ์ที่จะถ่ายรูปถ้ามีคนผ่านมาให้ ซึ่งหลังจากคุกเข่าขอร้อง มิอุก็ยอมรับทำให้ เมื่อถึงวันไทม์ลิมิตไซฮาระกับคาเอเดะก็ได้เอากล้องไปซ้อนในชั้นหนังสือเพื่อเตรียมจะจับตัวผู้บงการ และมาซุ่มรอที่ห้องเรียนด้านบนดูว่ามีใครเดินลงไปด้านล่างบ้าง
- ระหว่างนั้น ไซฮาระเล่าเรื่องที่เขาเคยเป็นนักสืบและจับคนร้ายได้สำเร็จ แต่เจอกับสายตาโกรธแค้นของคนร้ายพร้อมกับทราบทีหลังว่าคนร้ายมีเหตุจำเป็นและคนที่ตายก็เป็นคนไม่ดี ทำให้ไซฮาระเริ่มหมดความมั่นใจในการสืบสวนของตัวเองแต่คาเอเดะก็ให้กำลังใจไซฮาระและบอกว่าถ้ามีเปียโนอยู่เธออยากจะเล่นเพลง Clair de Lune ให้ไซฮาระฟัง แต่ในตอนนั้นเองตัวรับสัญญาณก็ดังทำให้ทั้งคู่รู้ว่ามีคนโดนถาพถ่ายติดแล้ว แต่พอลงไปที่ห้องสมุดกับพบศพของอามามิแทน...คาเอเดะคิดว่าอามามิเป็นคนบงการแต่โมโนคุมะเฉลยว่าไม่ใช่ คดีที่ 1 จึงได้เริ่มต้นขึ้นมา
- เมื่อเข้าศาลชั้นเรียน ทั้งหมดพยามตาหาคนร้าย กอนตะถูกสงสัยเพราะเขาอยู่คนเดียวในห้อง AV แต่สุดท้ายคาเอเดะก็ช่วยพิสูจน์ว่ากอนตะไม่ใช้คนร้าย ตอนนั้นเองคาเอเดะเริ่มสังเกตว่าไซฮาระคิดอะไรในใจอยู่แต่ไม่กล้าพูดออกมา พออิรุมะเริ่มพูดเรื่องของระยะดีเลย์ของชัตเตอร์ และพบว่ามีแต่อิรุมะกับไซฮาระที่รู้ ไซฮาระเลยตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที เพราะเขาสามารถอาศัยเวลา 30 วินาทีเข้าไปก่อเหตุได้ แต่คาเอเดะก็ช่วยเถียงให้ทุกคนเชื่อใจไซฮาระ แล้วบอกให้ไซฮาระพูดในสิ่งที่คิดอยู่ออกมา ไซฮาระเหมือนจะรู้ว่าคาเอเดะกำลังบอกใบ้เขาให้พูดสิ่งที่คิดออกไป ซึ่งไซฮาระก็ตัดสินใจจะสู้กับตัวเองและเริ่มพูดข้อสันนิฐานของตัวเองออกไป (ตรงนี้เกมจะสลับให้เรามาเล่นไซฮาระ)
- ไซฮาระบอกว่า คนร้ายตั้งกล้องและใช้แฟลชดึงความสนใจของเหยื่อ พร้อมกับบอกว่าคนที่ทำได้มีแค่คนเดียวคือ คาเอเดะ ก่อนที่ไซฮาระจะเริ่มเฉลยว่าคาเอเดะทำกับดักโดยการเรียงหนังสือให้เป็นเนินลาด ใช้ลูกบอลเหล็กกลิ้งจากท่อในห้องเรียนลงไปตามทางไหลไปตามหนังสือให้ตกใส่หัวของเหยื่อที่เข้ามาหากล้องที่ซ่อนเอาไว้ ทั้งหมดสงสัยว่าทำไมคาเอเดะทำแบบนี้แค่ไซฮาระจะบอกว่า คาเอเดะทำไปเพราะต้องการจะจัดการผู้บงการเพื่อปกป้องทุกๆคน ต่างหาก หลังจากการโหวตเสร็จสิ้น คาเอเดะกลายเป็นคนร้าย แล้วโดนโมโนคุมะประหารไป ไซฮาระเข้าไปที่ห้องพัฒนาทักษะของคาเอเดะแล้วเปิด Clair de Lune ฟังพร้อมกับตัดสินใจจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคาเอเดะคือการปกป้องทุกๆคน
- บทที่ 2
- โมโมตะพาไซฮาระมาฝึกตอนกลางคืนเพื่อจะให้กำลังใจไซฮาระจากการสูญเสียคาเอเดะ พวกโมโนคุมาสให้ไอเทมใหม่ๆกับพวกไซฮาระเพื่อเปิดส่วนต่างๆของโรงเรียน ไซฮาระไปเจอกับไฟฉายที่ช่วยคืนความทรงจำในช่วงที่สำรวจโรงเรียน หลังจากนั้นไม่กี่วันถัดมาโมโนคุมะก็มาพร้อมกับแรงจูงใจใหม่ นั้นคือวีดีโอคนสำคัญนั้นเอง โดยแต่ละคนจะได้ของคนอื่นไปดู เหมือนเป็นการให้แต่ละคนกุมคความลับของคนอื่น คีย์โบขอร้องไม่ให้บอกว่าใครได้ของใครเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โอมะเลยวางแผนไปเป่าหูกอนตะเพื่อเก็บรวบรวมวีดีโอคนสำคัญคนอื่นๆมาดู ในช่วงวันเดียวกัน ฮิมิโกะกับแองจี้ตัดสินใจเปิดการแสดงเวทมนต์ ในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากจบปัญหาของโอมะกับกอนตะ พวกชูอิจิเลยมาดูการแสดงเวทมนต์ของฮิมิโกะ ซึ่งเป็นมายากลหนีจากน้ำ ถ้าหนีไม่ทัน ถังด้านบนจะเทปลาปิรันย่าลงมาในถังด้านล่างที่ฮิมิโกะอยู่ การแสดงเสร็จสิ้น ฮิมิโกะหนีได้ แต่พอเปิดผ้ามาก็พบกับศพของเรียวมะ และโดนปลาปิรันย่าแทะจนเหลือแต่กระดูก คดีที่ 2 เลยเริ่มต้นขึ้น
- ที่ศาลชั้นเรียน ฮารุคาว่าโดนสงสัยเพราะเจ้าตัวไม่มีพยานยืนยัน แต่เพราะโมโมตะประกาสออกมาว่าเขาเชื่อใจฮารุคาว่า ซึ่งชูอิจิเองก็ด้วย ทำให้ฮารุคาว่ายอมบอกว่าเมื่อวานคนที่เจอกับเรียวมะเป็นคนสุดท้ายคือเธอ เพราะเรียวมะมาคุยเรื่องวีดีโอแรงจูงใจกับเธอ หลังจากการถกเถียงเรื่องหลักฐานที่อยู่ ทำให้ไซฮาระเริ่มแน่ใจว่า โทโจน่าจะเป็นคนร้าย โดยไซฮาระเฉลยคดีว่า โทโจฆ่าเรียวมะโดยการจับกดน้ำแล้วใช้เชือกขึงระหว่างห้องอาบน้ำของคอร์สเทนนิสเรียวมะกับหน้าต่างโรงยิมเพื่อค้นศพไป แต่เพราะว่าเศษถุงมือของโทโจพลาดตกน้ำ และไม่สามารถลงสระได้ในตอนกลางคืน เพราะจะผิดกฎโรงเรียน (พวกเอ็กซารุจะโผล่มาพร้อมกับเสียงไซเรน) ทำให้โทโจต้องจำใจทิ้งหลักฐานเอาไว้ และไซฮาระก็เจอทำให้นำไปสู่การไขคคดีได้
- แรงจูงใจของโทโจนั้นมาจากวีดีโอคนสำคัญของเธอ โดยคนสำคัญของเธอคือ "ทุกคนทั้งประเทศ" เพราะสุดยอดนักเรียนเมดนั้น คือคนที่ทำงานรับใช้ประชาชนทุกคน หลังจากเห็นวีดีโอทำให้สำนึกในหน้าที่ของเธอตื่นขึ้นแล้วคิดว่าถ้าต้องออกไปเพื่อทำหน้าที่รับใช้คนอื่นๆให้ได้ ซึ่งคนที่โทโจเลือกฆ่าคือเรียวมะ ตรงกันข้ามกับที่ทุกคนคิด เรียวมะนั้นยอมให้โทโจจัดการแต่โดยดี เพราะว่าเขาไม่มีคนสำคัญเหลืออยู่เลยไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว แต่ก่อนที่จะประหาร โอมะได้พูดจาแทงใจดำโทโจเรื่องหน้าที่ ทำให้โทโจคิดจะรอดชีวิตหนีออกจากการประหารไปให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ
- หลังออกมานอกศาล โอมะนั้นพูดจาก่อกวนใส่ฮารุคาว่า จนเธอเข้าไปเล่นงานโอมะ โอมะก็เลยเฉลยความจริงออกไปว่า ฮารุคาว่าจริงๆคือสุดยอดนักเรียน "นักฆ่า"
- บทที่ 3
- ทั้งหมดมาดูห้องพัฒนาทักษะของฮารุคาว่าและคอนเฟิร์มว่าเธอเป็นนักฆ่าจริงๆ เหล่าโมโนคุมาส ที่เหลือสามตัวเพราะโมโนดั้มจัดการโมโนสุเกะกับโมโนคิดส์ไปตอนประหาร ก็ได้ทำการก่อกบฎยึดเกมมาจากโมโนคุมะ โดยโมโนดั้มจะเป็นคนคุมเกมเอง ด้านโมโมตะก็ไปลากเอา ฮารุคาว่ามารวมฝึกตอนกลางคืนกับชูอิจิด้วย หลังจากนั้น พวกโมโนคุมาสได้นำเอาแรงจูงใจใหม่มาให้ทุกคน นั้นคือ คัมภีย์คืนชีพคนตาย ที่สามารถเรียกวิญญาณนักเรียนที่โดนประหารก่อนๆให้กลับมาได้ แองจี้คิดที่จะลองดูเลยก่อตั้ง สภานักเรียนแห่งโรงเรียนไซชูขึ้นโดยมีเธอเป็นประธาน (สมาชิกมี เทนโกะ ฮิมิโกะ สึมุกิ กอนตะและคีย์โบ) ในขณะที่อีกกลุ่มมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ด้านฮารุคาว่าเริ่มโดยพวกแองจี้คุกคามตอนกลางคืนเพราะกังวลความสามารถของเธอ ในตอนกลางดึกวันหนึ่ง เทนโกะได้เข้ามาขอโทษฮารุคาว่าและคุยกับพวกชูอิจิและบอกว่าเธอเข้ากลุ่มเพราะตามฮิมิโกะเท่านั้น เธออยากให้ชูอิจิไปคุยกับแองจี้เพื่อล้มเลิก พอไปก็เจอแองจี้ทำการปั้นตุีกตาเสมือนของคนที่ตายไปแล้ว เป็นเสมือนตัวแทนสื่อวิญญาณ เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งหมดลากโมโมตะ (ที่ทั้งบทจะหงอยๆเพราะกลัวเรื่องเหนือธรรมชาติ) ไปคุยกับแองจี้อีกรอบ แต่เข้าไปก็ดันพบศพของแองจี้แทน ระหว่างการสืบสวน ชินงูจิจะแนะนำพิธีเรียกวิญญาณออกมา ซึ่งฮิมิโกะกับเทนโกะอาสา เพราะจะเรียกวิญญาณแองจี้ออกมาเพื่อหาว่าใครเป็นฆาตกร โดยมีไซฮาระกับโอมะไปช่วย ตอนแรกฮิมิโกะจะเป็นคนที่เข้าไปเรียกวิญญาณด้านใน แต่เทนโกะอาสาตัวแทน หลังจากจบพิธีเรียกวิญญาณท่านสุนัข ทั้งหมดไม่ได้ยินเสียงตอบ แต่พอลองเปิดผ้าดู ก็ดันพบศพของเทนโกะแทน กลายเป็นการฆาตกรรมสองครั้งซ้อน
- ในศาลชั้นเรียน ฮิมิโกะรีบร้อนที่จะหาตัวคนที่ฆ่าแองจี้กับเทนโกะให้ได้ หลังจากสืบจากคดีเทนโกะทำให้ทุกคนคิดว่าชินงูจิน่าจะเป็นฆาตกร แต่ชินงูจิบอกว่าจากกฎของโมโนคุมะแล้ว ฆาตกรจะต้องมีคนเดียวนั้นหมายความว่า คนที่ฆ่าแองจี้กับเทนโกะต้องเป็นคนเดียวกัน และเขาก็ไม่มีทางที่จะฆ่าแองจี้ได้ด้วย แต่สุดท้ายไซฮาระก็พิสูจน์ได้ว่า ชินงูจิฆ่าแองจี้เพราะความบังเอิญที่แองจี้ไปเห็นกับดักที่เขาเตรียมไว้ในพิธีเรียกวิญญาณเข้า ซึ่งเขาฆ่าแองจี้แล้วย้ายศพมาที่ห้องของเธอแล้วทำทริคห้องปิดตาย ซึ่งแรงจูงใจของชินงูจิก็คือเขาอยากจะหาเพื่อนให้ได้ ร้อยคน ส่งไปอยู่กับพี่สาวที่ตายไปแล้ว แม้แต่ตอนจะโดนประหารเขาก็ดีใจเพราะตอนนี้เขาจะได้ไปอยู่กับพี่สาวและไม่มีสายสัมพันธ์ใดๆมากีดกันความรักของเขากับพี่สาวอีกแล้ว (ชินงูจิมีอีกลักษณะหนึ่งเมื่อถอดหน้ากากเป็นผู้หญิง คิดว่าน่าจะเป็นตัวตนของพี่สาว) หลังจบศาล โมโมตะมีอาการกระอักเลือด เหมือนเป็นโรคอะไรสักอย่าง
- บทที่ 4
- ฮารุคาว่าเล่าอดีตตัวเองให้กับพวกไซฮาระกัน อีกด้านหนึ่งโอมะแอบไปต่อรองอะไรอย่างลับๆกับโมโนคุมะ ซึ่งในกลางดึกคืนหนึ่ง มิอุเข้ามาชวนพวกไซฮาระเข้าไปในโลกของเกม VR ที่ห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแท้จริงแล้วนี้คือแรงจูงใจใหม่ของโมโนคุมะในรอบนี้ ซิมูเลเตอร์เกมฆ่ากัน ในระหว่างที่ทุกคนสำรวจโลกเกม VR โมโมตะเกิดดันหลุดออกไปก่อน และเมื่อทุกคนออกมาก็พบว่ามิอุนั้น ตายซะแล้ว
- ในศาลชั้นเรียน ไซฮาระสามารถพิสูจน์ได้ว่าโอมะน่าจะอยู่เบื้องหลังการตายของมิอุ ซึ่งโอมะก็ยอมรับแต่เขาบอกว่า ฆาตกรเป็นกอนตะ ในขณะที่กอนตะนั้นตกใจเพราะตัวเองจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ในโลก VR ถ้าการมีการฆ่ากันตายจะส่งผลถึงตายในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย ไซฮาระสืบจนรู้ว่า Avtar ของกอนตะติดบั๊คในเกมจากการเสียบสายผิด นั้นทำให้เขาไม่ได้รับความทรงจำในโลก VR ทำให้จำเรื่องราวต่างๆไม่ได้ ในโลก VR นั้นจริงๆ มิอุวางแผนจะฆ่าโอมะ เพราะมองว่าโอมะเป็นตัวอะไร+เธอต้องการออกไปยังโลกภายนอก แต่โอมะที่รู้ทันได้เอาไฟฉายคืนความจำมาใส่ในโลกนี้โดยขอจากโมโมคุมะและฉายมันใส่กอนตะ ทำให้กอนตะได้เห็นสภาพโลกภายนอกที่โหดร้าย เมื่อเห็นมิอุกำลังจะฆ่าโอมะ กอนตะ Avatar เลยชิงจัดการเพราะต้องการปกป้องทุกคนไม่ให้ออกไปจากโลกภายนอก ถ้าจะไปเจอโลกภายนอกสู้ตายไปซะเลยดีกว่า โมโมตะจะเชื่อใจกอนตะและพยามเถียงกับชูอิจิแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งหลังจบศาล โมโนคุมะได้นำตัว กอนตะ Avatar ออกมาเพื่อให้เล่าความจริงด้วย หลังจบการประหาร โมโมตะที่แค้นโอมะมากเลยเข้าไปต่อยแต่ก็โดนโอมะสวน ประจวบกับที่โมโมตะกระอักเลือดต่อหน้าทุกคนพอดี เลยทำให้ทุกคนทราบเรื่องอาการป่วยของโมโมตะ ด้านโอมะที่เดินหนีออกมาด้านนอก ก้ได้ประกาศว่าเขาจะปิดฉากเกมฆ่ากันนี้วะที
- บทที่ 5
- โมโมตะวางแผนจะไปสู้กับโมโมนคุมะ โดยใช้อาวุธในห้องพัฒนาทักษะของฮารุคาว่า แต่โอมะก็โผล่มาแล้วเสนอให้ใช้ อิเล็กแฮมเมอร์ที่สามารถปิดกลไกทุกอย่างของพวกโมโนคุมะได้ พวกชูอิจิได้ไปยังทางออกตอนแรกสุดที่คาเอเดะเคยผ่านมา แต่เพราะมีอิเล็กแฮมเมอร์เลยฝ่ากับดักไปได้ แล้วไปเจอทางออก แต่เมื่อเปิดออกก็พบกับสภาพโลกที่เต็มไปด้วยรังสีและกลายเป็นดาวแห่งความตายอยู่ตรงหน้าทำให้ทุกคนช็อค โอมะปรากฎตัวออกมาแล้วเคลมว่าเขาเป็นผู้บงการเอง และโชว์รีโมตควบคุม เอ็กซารุ ก่อนจะบอกว่าทั้งหมดนั้นจริงๆคือสุดยอดนักเรียนที่ได้รับเลือกเข้าโครงการโกเฟล ที่เสมือนเรือโนอา พาสุดยอดนักเรียนทั้ง 16 คนหลบหนีออกไปจากโลกเพื่อให้เป็นอดัมกับอีฟและสืบทอดเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้อยู่ต่อไปนั้นเอง โมโมตะจะโมโหโอมะแล้วเข้าไปสู้แต่ก็โดนจับตัวไป ด้านคนอื่นก็สิ้นหวังกันหมด
- ฮารุคาว่ามาตามไซฮาระที่ห้องแล้วเรียกไปให้รวมตัวที่ห้องอาหารและให้หาอะไรกิน ก่อนที่เธอจะบอกว่าเธอพบไฟฉายคืนความจำอันใหม่ และพอฉายไป พวกไซฮาระก็ได้รู้ว่าพวกเขาคือนักเรียนของโรงเรียนคิโบกามิเนะที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เป็น "เมล็ดพันธ์แห่งความหวัง" ที่ผู้คนฝากฝังเอาไว้นั้นเอง นอกจากนี้ยังพบว่า โอมะนั้นจริงๆคือ พวกเศษซากแห่งความสิ้นหวังผู้ที่จะเข้าใกล้การเป็นสุดยอดนักเรียนสิ้นหวัง เอโนชิม่า จุนโกะอีกด้วย ทั้งหมดเลยได้ความหวังมาอีกครั้งและหาทางจัดการโอมะ โดยจะลงมือบุกไปช่วยโมโมตะกันในอีกสองวัน
- เมื่อถึงวันจริง พอทั้งหมดบุกเข้าไปก็พบกับเครื่องบดที่โรงเก็บเอ็กซารุ กับกองเลือดและแขนเสื้อของชุดคลุมโมโมตะ.... โมโนคุมะปรากฎตัวออกมาให้เริ่มศาลชั้นเรียนได้ ทั้งหมดไม่ทราบว่าใครตายแต่ก็ต้องไปศาลชั้นเรียน เมื่อมาถึง ฮารุคาว่ามั่นใจว่าโอมะคือผู้บงการเบื้องหลังแน่ๆเลยบอกให้เขาโชว์ตัวออกมา แต่โอมะก็ปรากฎตัวออกมาในสภาพที่ขี่เอ็กซารุและไม่มีใครเห็นหน้าด้านใน นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนเสียงโมโมตะอีกด้วยทำให้ไม่มีใครรู้ว่าใครกันแน่ที่ตายไป
- ไซฮาระพยามเชื่อมโยงคดีและพบว่า ฮิมิโกะเอาหน้าไม้ไปให้โมโมตะใช้ป้องกันตัวตอนเมื่อวาน และฮารุคาว่าก็บุกมาจะจัดการโอมะคนเดียวด้วย เพราะหน้าไม้ของฮารุคาว่าอาบนาพิษเอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าโอมะจะตาย แต่โมโมตะดันเข้ามารับลูกดอกแทนโอมะเพราะไม่อยากให้ฮารุคาว่าฆ่าคน ฮารุคาว่าเลยรีบกลับไปหายาถอนพิษมาให้โมโมตะ แต่เมื่อเอาให้ก็พบว่าโอมะแย่งยาไปกินซะแล้ว เธอเลยปักใจเชื่อว่าโมโมตะต้องตายเพราะพิษและเธอนี้และที่เป็นคนฆ่าโมโมตะ
- แต่ไซฮาระนั้นพลิกคดี และพิสูจน์ได้ว่า โมโมตะนั้นไม่ได้ตาย คนตายคือโอมะต่างหาก แท้จริงแล้วสองคนนี้ร่วมมือกันเพื่อจะสร้างสถานการณ์ที่โมโนคุมะไม่แน่ใจคนร้ายเลยขึ้นมาเพื่อตลบหลังโมโนคุมะอีกที ก่อนจะบอกว่า จริงๆโอมะแกล้งกินยาแก้พิษแบบหลอกๆแต่ให้โมโมตะกินแทนต่างหาก และคนที่อยู่ในเอ็กซารุคือโมโมตะไม่ใช่โอมะ ไซฮาระใช้วิธีขู่ว่าข้อสันนิฐานของตัวเองผิด ทำให้คนอื่นๆไม่มั่นใจ จนโมโมตะต้องยอมออกมาโดยที่สุด
- แท้จริงแล้วโมโมตะทำตามแผนกับโอมะไว้ทั้งเรื่องเตี้ยมบทพูดหรือให้ขับเอ็กซารุ ส่วนสาเหตุที่โมโมตะยอมทำแบบนี้ด้วยเพราะเขาไม่ต้องการให้ฮารุคาว่าต้องตกเป็นฆาตกรเพราะฆ่าโอมะนั้นเอง ส่วนท้ายโมโมตะก็ถูกประหาร แต่เพราะเจ้าตัวตายจากโรคประจำตัวก่อนการประหารจะเสร็จทำให้ไม่ถือว่าตายด้วยน้ำมือของโมโนคุมะ
- บทที่ 6
- ในการประหารของโมโมตะ ทำให้หินกระเด็นมาโดนหงอนของคิโบหลุด และคิโบก็เริ่มแปลกไป เขาไปเอาอาวุธมาจากห้องพัฒนาทักษะแล้วเริ่มทำการโจมตีโรงเรียนเพราะอยากจะจบเกมฆ่ากันนี้ซะที พวกไซฮาระคุยกับคีโบว่าขอเวลาพวกเขาหาความจริง ซึ่งคีโบก็ยอมและจะสู้กับเอ็กซารุถ่วงเวลาให้ พวกไซฮาระนั้นค้นหาความจริงในโรงเรียนที่กำลังจะพังและต้องแข่งกับเวลาผ่านทางข้อมูลที่โอมะสืบหาเอาไว้ให้ และพบเจอห้องลับของผู้บงการ โมโนคุมะมาเธอร์ที่เป็นเหมือนสิ่งที่ควบคุมโมโนคุมะอีกที นอกจากนี้ยังมีโมโนจิจิ โมโนคุมาร์สตัวที่ 6 ที่ทำหน้าที่เป็นกล้องอีกด้วย ไซฮาระค้นพบถึงอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างไฟฉายคืนความทรงจำ และเริ่มสงสัยเรื่องทั้งหมด หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจ คีโบเข้ามาถามคำตอบของไซฮาระ ซึ่งไซฮาระก็ขอให้โมโนคุมะเปิดศาลชั้นเรียนอีกครั้ง เพื่อจบเรื่องทั้งหมด
- ในศาลชั้นเรียน ไซฮาระเฉลยคดีแรกใหม่ว่า จริงๆแล้วอามามิไม่ได้ตายเพราะกับดักของคาเอเดะ เพราะกับดักนั้นพลาด ไม่โดนอามามิ แต่ผู้บงการที่รู้ข้อนี้อยู่แล้วเลยอาศัยโอกาสนั้นฆ่าอามามิโดยใช้ลูกบอลเหล็กแบบเดียวกัน ทำให้ทุกคนเข้าใจว่ากับดักของคาเอเดะสำเร็จ ซึ่งคนที่ไซฮาระชี้ตัวเป็นคนร้ายก็คือ สึมุกิ เพราะเธอบอกว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และบังเอิญที่ไซฮาระเจอทางเข้าห้องลับจากห้องน้ำหญิงอีกด้วย หลังจากไล่ต้อนไป สึมุกิก็ยอมรับว่าเป็นผู้บงการ...ในร่างของ จุนโกะ!
- สึมุกิ คอสเพลย์เป็นจุนโกะสลับกับการเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด ทั้งเรื่องโครงการ โกเฟลเอย หรือเรื่องออกนอกอวกาศเอยเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น เป็น "ซีนาริโอ้" ที่ถูกเขียนขึ้นมา ไซฮาระจะสงสัยว่าสึมุกิไม่สามารถคอสเพลย์เป็นคนจริงๆได้ แล้วทำไมถึงเป็นจุนโกะได้ คำตอบของสึมุกิคือ
- "ดันกันรอนปะเป็นเรื่องที่แต่งขั้นยังไงล่ะ หรือก็คือ เป็น "ฟิกชั่น""
- ไซฮาระจะตกใจก่อนที่ สึมุกิจะเริ่มคอสเพลย์เป็นตัวละครเก่าๆจากภาค1 ภาค2 ออกมาแล้วพูดตอบโต้กับพวกไซฮาระ แท้จริงแล้ว ดันกันรอนปะเป็นฟิกชั่นที่ได้รับความนิยมสูงบนโลก และก็มีผู้คนชื่นชอบและคลั่งไคล้มากมาย เลยมีการสร้าง "เรียลฟิกชั่น" จากดันกันรอนปะขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความคลั่งไคล้กับผู้คนบนโลก ก่อนที่สึมุกิจะโชว์บอสที่แท้จริงของเกมให้พวกไซฮาระดูนั้นคือเหล่า "คนดู" เกมดันกันรอนปะนั้นเอง
- ดันกันรอนปะ V3 นั้นคือดันกันรอนปะภาคที่ 53 หมายความว่ามีเกมฆ่ากันแบบนี้เกิดขึ้นมาหลายสิบครั้งแล้ว โดยผู้ที่ดำเนินการสร้างเกมดันกันรอนปะขึ้นมาคือหน่วยงานที่ชื่อว่า "ทีมดันกันรอนปะ" นอกจากนี้ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่เรื่องความทรงจำทั้งหมดของไซฮาระเองก็เป็นสิ่งที่แต่งขึ้น
- ไซฮาระรู้ได้ทันทีว่า ไฟฉายคืนความทรงจำนั้นไม่ได้ทำให้ความทรงจำคืนมาแต่อย่างใดแต่เป็นการใส่ความทรงจำเข้าไปแทนที่ต่างหาก สึมุกิยังบอกว่า พวกตัวตนของไซฮาระนั้นไม่มีอยู่จริง ทั้งประวัติเอย ความสามารถเอย ทั้งลักษณะนิสัยเอย ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพของฮิมิโกะกับเทนโกะ เรื่องราวความรักของฮารุคาว่ากับโมโมตะ อาการเจ็บป่วยของโมโมตะ ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติเพื่อที่จะทำให้ผู้คนชอบและได้เรตติ้งดีทั้งนั้น
- ไซฮาระจะสิ้นหวังกับความจริงที่ได้รับรู้ นอกจากนี้ สึมุกิยังได้โชว์ตัวตนจริงๆของไซฮาระ ทั้งสิบหกคนจริงๆคือคนที่สมัครเข้ามาเล่นเกมดันกันรอนปะนี้ด้วยความสมัครใจเอง แม้รู้ว่าต้องตายหรือโดนลบความทรงจำก็ตามที โดยไซฮาระนั้นจริงๆเป็นแค่แฟนของเกมดันกันรอนปะที่อยากเป็นสุดยอดนักเรียนนักสืบ ต่อให้ไม่ได้ไขคดีก็ไม่เป็นไรแต่เขาอยากจะเป็นนักสืบที่เป็นคนร้ายซะเองแล้วอยากได้ ฉากประหารที่เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดนักสืบอีกด้วย
- ไซฮาระจะทนดูต่อไปไม่ไหว กับตัวตนจริงๆที่เขาได้รับรู้ และสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ทุกคนจะค่อยๆสิ้นหวังไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เข้า สู่ Bad End
- เมื่อเราเลือกไม่เซฟใน Bad End คำว่าเซฟจะเปลี่ยนไป หลังจากนั้นเมื่อกด คีโบจะบอกว่าเขาได้ยินเสียงชัดเจน เสียงแห่งความหวังของผู้คน ก็จะลุกขึ้นมาอีกครั้งการเป็นสุดยอดนักเรียนหุ่นยนต์แห่งความหวัง! (เราจะสลับมาเล่นคีโบ)
- คีโบจะพยามดึงความหวังจากไซฮาระและคนอื่นๆ แต่จะโดนสึมุกิ เฉลยความจริงว่า ตัวคีโบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้กลายเป็นกล้องถ่ายทอดสดเหตุการณ์เท่านั้นและหงอนของคีย์โบคือเสาอากาศที่เอาไว้รับฟังความเห็นจากบรรดาแฟนๆดันกันรอนปะทั่วโลก แต่ถึงแบบนั้นคิโบจะไม่สิ้นหวังแต่ทว่าเขาจะโดนไซฮาระตอกกลับว่าโลกนี้มันไม่มีความหวังเหลืออยู่แล้ว
- ก่อนที่ไซฮาระจะอธิบายว่า โลกที่หลงไหลกับเกมฆ่ากันและให้มันดำเนินไปถึง 50 กว่าภาคมันจะไปมีความหวังเหลือได้ยังไงกัน อีกอย่างความหวังที่คีย์โบอยากจะสื่อ มันก็คือความหวังของแฟนๆที่อยากให้จบแฮปปี้เอ็นดิ้งเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?
- สึมุกิเลยเสนอทางเลือกออกมาว่า ให้โหวตคนผิด ถ้าคีโบตัวแทนความหวังถูกโหวตแสดงว่าความสิ้นหวังจะชนะ แต่ถ้าเกิดตัวเธอถูกโหวต พวกไซฮาระจะได้รับสิทธิ์จากกฎ โดยการมีคนสละตัวเองอีกคนเพื่อให้ที่เหลือได้หนีออกไปได้ ซึ่งฮารุคาว่าจะอาสาเอง แต่คำตอบของไซฮาระก็คือการปฏิเสธ...
- "ผมปฏิเสธความสิ้นหวัง"
- "ผมปฏิเสธความหวัง"
- ไซฮาระจะบอกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะเล่นตามเกมต่อไป ไม่ว่าความหวังหรือความสิ้นหวังจะชนะดันกันรอนปะจะมีอยู่ต่อไป เพราะงั้นเขาจะไม่เลือกทั้งสองฝั่ง สึมุกิจะบอกว่าไซฮาระที่เป็นตัวตนแค่ฟิกชั่นไม่มีทางทำอะไรได้หรอกอีกอย่าง เพราะมีความหวังของทุกคนบนโลก ดันกันรอนปะที่ทุกคนชอบเลยมีต่อไป ต่อไป และต่อไปเรื่อยๆ แต่ไซฮาระจะบอกว่าถึงเขาจะเป็นฟิกชั่นแต่ความรู้สึกของเขา ประสบการณ์ของเขามันเป็นเรื่องจริง ถ้าโลกภายนอกคาดหวังเกมฆ่ากันแบบดันกันรอนปะเขาก็จะปฏิเสธโลกภายนอกด้วย
- "ผมปฏิเสธดันกันรอนปะ!!!!"
- ซึ่งไซฮาระจะพูดให้ฮิมิโกะกับฮารุคาว่ายอมทำตามกับเขาด้วย ฮิมิโกะบอกว่าชีวิตนี้เป็นของเธอเอง ในขณะที่ฮารุคาว่าบอกว่าความรู้สึกของเธอเป็นของจริง (เราจะสลับไปเล่ยสองคนนี้ด้วย) ไซฮาระจะบอกให้ทุกคนไม่เล่นเกม ไม่เล่นดันกันรอนปะและไม่ทำการโหวตซะ ทำให้สึมุกิตกใจที่กลายเป็นแบบนี้ ด้านคีโบเองก็ยอมรับในการตัดสินของไซฮาระ ถ้าความหวังของเขาทำให้เกมฆ่ากันไม่จบแบบนี้ เขาก็จะสละความหวังนั้นเอง
- แต่ตอนนั้นจุ่ๆคีโบก็แปลกๆไป สึมุกิบอกว่ากะแล้ว เพราะการตัดสินใจทำลายดันกันรอนปะของไซฮาระ ทำให้แฟนๆทั่วโลกไม่พอใจ เสาอากาศที่รับความเห็นของคนทั้งโลกเลยส่งข้อความเหล่านั้นใส่ตัวตีโบทำให้ตอนนี้คีโบโดนควบคุมไปแล้ว แต่คีโบก็พยามดึงสติออกมาแล้วบอกลากับพวกไซฮาระ แต่ไซฮาระบอกว่าไม่เป็นไร เขาขอให้คีโบปล่อยคำพูดเหล่านั้นออกมา เขาจะเผชิญหน้ากับมันเอง
- ซึ่งการเถียงครั้งสุดท้ายระหว่าง ไซฮาระ VS คนทั้งโลกที่ชื่นชอบดันกันรอนปะผ่านตัวของคีโบ ไซฮาระก็สามารถแสดงเจตจำนงค์ที่แน่วแน่ แม้พวกเขาจะเป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความหมาย เขาจะไม่ยอมให้เรื่องราวการตายของคนอื่นๆในเกมนี้สูญเปล่าไป
- "มาจบดันกันรอปนะด้วยมือของทุกคนกันเถอะ!!!"
- หลังจบการเถียง คีโบไม่มีปฏิกริยาอะไร แต่สึมุกิบอกว่าคงไม่มีทางก่อนจะบอกให้โหวตครั้งสุดท้าย....
- ฮิมิโกะกังวลเรื่องผลโหวตว่าถ้าเกิดพวกเธอไมโหวตละก็จะต้องโดนกฎเล่นงาน แต่สึมุกิจะบอกว่าตัวเธอก็ไม่โหวตด้วย ทำให้ฮิมิโกะตกใจ สึมุกิจะบอกว่า ตัวเธออยากให้ดันกันรอนปะมีต่อไป ถ้าเธอโหวตคีโบและ คีโบโหวตเธอที่เป็นความสิ้นหวัง เรื่องราวจะจบไม่ได้ เธอเลยยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อที่ดันกันรอนปะจะไม่ได้จบ แต่เมื่อผลการตัดสินออกมา ปรากฎว่าไม่มีใครสักคนโหวตเลย...แม้แต่คีโบก็ด้วย!
- สึมุกิจะตกใจกับผลลัพท์นี้ ก่อนจะเห็นว่าคนดูที่ชมดันกันรอนปะเริ่มหายไปกันเรื่อยๆ คำพูดของไซฮาระส่งถึง ความตั้งใจของเขาส่งไปถึงแล้ว ไม่ว่าเหล่าคนดูอาจจะหงุดหงิดที่ดันกันรอนปะที่รักของตัวเองผิดคาดไปจากที่คิด หรือระลึกได้ว่าเราไม่ควรจะสนุกในการตายของคนอื่นๆก็ตาม แต่ผลก็ออกมาเหมือนกัน คือดันกันรอนปะโดยปฏิเสธแล้ว
- คีย์โบบอกว่าเขาจะทำการทำลายโรงเรียนนี้และเกมฆ่ากันนี้ซะ ในขณะที่สึมุกิบ่นเสียดายที่ดันกันรอนปะต้องมาจบในซีซันที่ 53 แบบนี้ แต่สุดท้ายเธอบอกว่า เธอก็ได้ทำหน้าที่ก็อปปี้คนคนหนึ่งอย่างเต็มที่แล้ว ทำให้ไซฮาระสงสัย
- สุดท้ายคีโบจะทำลายโรงเรียนและสละตัวเองระเบิดโดมด้านบนฉายภาพโลกภายนอกออกมาให้เห็น...
- หลังจากจบเครดิตและเพลงจบ พวกไซฮาระที่รอดมาได้ (ส่วนสึมุกิโดนหินทับ) ก็คุยกันว่าทำไมพวกเขายังรอดมาได้ แต่ไซฮาระบอกว่าจากนี้พวกเขาคงต้องเดินหน้าต่อไป เพราะตอนนี้พวกเขาคือฟิกชั่นที่กลายเป็นความจริง เป็นคนที่อยู่ระหว่างความเป็นจริงและฟิกชั่น นอกจากนี้ไซฮาระยังสรุปว่าเรื่องที่สึมุกิพูดในศาลเองก็ยังเชื่อไม่ได้ 100% เพราะคำพูดสุดท้ายของเธอทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถตัดสินได้ว่า เรื่องของโรงเรียนคิโบกามิเนะเกิดจริงหรือเป็นแค่ฟิกชั่นกันแน่ ซึ่งทั้งสามก็มองท้องฟ้าจากโลกภายนอกพร้อมกับกล้องที่ค่อยๆถ่ายห่างออกไป เผยให้เห็นโดมที่มีโลโก้ทีมดันกันรอนปะแปะ ซึ่งแตกออกมาราวกับว่าในตอนนี้เรื่องแต่งได้กลายเป็นของจริงแล้ว
- ถ้าเชื่อมั่นในคำโกหก คำโกหกนั้นจะเป็นเรื่องจริง
- ถึงเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าไม่เชื่อก็จะเป็นแค่คำโกหก
- Danganronpa TheEnd
Advertisement
Add Comment
Please, Sign In to add comment
Advertisement