Advertisement
Okthisisepic

schiffon2

Jan 21st, 2020
130
0
Never
Not a member of Pastebin yet? Sign Up, it unlocks many cool features!
text 16.15 KB | None | 0 0
  1. หลังจากเหตุการณ์ของโร่เซ่ ลีเวียก็แนะนำว่า ให้ซิลไปที่ "พาราซีโอ้ ลูเนส" (Palacio Lunes)(เป็นสถานที่ของคนปกครองจักรวาลของซิล) เพื่อไปทำการลงรายชื่อองค์กรณ์เพื่อให้องค์กรณ์สามารถทำหน้าที่ให้กับ "เอล อัลติโม่ เพโดร"(El Ultimo Predo)(ผู้ปกครองพาราซีโอ้ ลูเนส)(เรียกสั้นๆว่า เพโดร) ระหว่างทางที่กำลังไปนััน ชายแก่ได้บอกกับพวกซิลว่า ก่อหน้านี้ เขาแนะนำตัวเองว่าชื่อ เก็นเรดิส ซึ่งเขานั้นต้องการให้พวกซิลเรียก "เก็นไซ" มากกว่า เพราะเป็นชื่อที่เขาถูกเรียกเมื่อ 7000 ปีที่แล้ว เขามีพลังของ "ราชันมาร วิถีปีศาจสีขาว ชิโระ โอนิ" เขาเกิดมาท่ามกลางพิธีอันเชิญมารสีขาว ซึ่งเป็นปีศาจตามความเชื่อของพวกชาวบ้านเมื่อ 7000 ปีก่อน เมื่อเขาเกิดมา เขาได้รับพลังจากมารสีขาวไปมาก ทำให้เขามีพลังในการหยั่งรู้อดีต และอนาคต อีกทั้งยังทำให้เขามีชีวิตถึง 10000 ปี เขาได้เห็นอารยธรรมของมนุษย์มากมาย แต่สุดท้าย อารยธรรมของมนุษย์บนโลกก็จบสิ้น โลกถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งถูกเรียกว่า "วังสีเงิน" เป็นสถานที่ของคนมีฐานะ และมีสิ่งอำนวยสะดวกมากมาย แต่อีกฝั่งยะถูกเรียกว่า "ขยะเปื้อนเลือด" เป็นสถานที่ของพวกอาชญากรณ์ คนเป็นโรคเรื้อรัง คนยากจน โลกเป็นสถานที่ที่ยำ่แย่ และคนที่ไม่มีเงินนั้นไม่อาจอยู่บนวังสีเงินได้ โดยเขานั้นได้อธิบายอีกว่าเมื่อไปถึง พาราซิโอ้ ลูเนส มันต้องมีภารกิจเกี่ยวกับบนโลกอย่างแน่นอน เมื่อไปถึง พวกเขาก็ได้คุยกับเพโดรเกี่ยวกับเรื่องขององร์กรณ์ เพโดรจึงได้ให้ภารกิจกับพวกเขาไปคือ การจัดการกับ "อาคุมะ" เป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในขยะเปื้อนเลือด ซึ่งพวกของซิลก็ได้รับภารกิจและเดินทางไปยังโลก ซึ่งภารกิจนี้ ปู่เก็นไซ(ชายแก่) ขอเป็นผู้ทำภารกิจคนเดียว เพื่อที่พวกซิลจะได้ไม่ลำบากกับอาคุมะ เนื่องจากฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซิลจึงยอมรับแต่โดยดี พอหาที่ลงจอดได้ ปู่เก็นไซจึงวาปพาทุกคนไปยังสถานที่ที่อาคุมะอยู่ พอเจอกับอาคุมะ อาคุมะกำลังจะใช้มือต่อยไปที่ปู่เก็นไซ แต่ปู่เก็นไซเพียงแค่รับหมัด แล้วบิดแขนของอาคุมะ จนแขนหัก แล้วปู่เก็นไซจึงใช้นิ้วชี้ ฟัน 2 ครั้ง ทำให้เป็นรอยกากบาทบนตัวอาคุมะ จนเสียชีวิตไป แล้วจึงนำเครื่องรางที่อาคุมะใส่ไปยืนยันกับเพโดร ซึ่งพอเพโดรเห็นก็รับพวกซิลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพาราซีโอ้ ลูเนส และตอนนี้พวกซิลสามารถรับภารกิจจากเพโดรได้ แต่ในพาราซีโอ้ก็มีองค์กรณ์แค่ 8 องค์กร(รวมพวกซิล)เท่านั้น เพราะภารกิจของเพโดรนั้นยากมากๆ และความจริงอีกอย่างคือ อาคุมะคือคนที่วังสีเงินส่งไปที่ขยะเปื้อนเลือดเพื่อไปเด็ดหัวพวกอาชญากรณ์ชั้นตำ่เล่น แล้วนำเลือดของพวกชั้นตำ่มาเพิ่มอายุขัยของพวกชนชั้นสูงเท่านั้น(โดยเลือดทุกหยดจะถูกทำความสะอาดให้ไม่มีเชื้อโรค) พวกคนในวังสีเงินได้ข่าวว่า อาคุมะตาย พวกเขาจึงโกรธมาก เพราะการคัดตัวคนมีพละกำลังมากในวังสีเงินนั้นหาได้ยาก ทำให้พวกคนในวังสีเงินตั้งค่าหัวองค์กร Elextra ไว้สูงมากๆ แล้วตอนนี้นั้น พวดเขาก็ได้ประกาศไปยังทั่วจักรวาล ว่าต้องการคนมากำจัดองค์กรนี้เพื่อที่จะได้เงินจำนวนมาก ตอนนี้นั้นองค์กรของซิลก็ได้ตกอยู่ในอันตราย. . . .
  2.  
  3. ในเมื่อตอนนี้องค์กรณ์ Elextra ตกอยู่ในอันตราย เลอเลิซ จึงได้เสนอให้ซิลไปสถานที่ๆหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างวังสีเงิน และขยะเปื้อนเลือด มันเป็นเกาะที่มีพื้นที่น้อยนิด แต่ว่าที่นั่นมีคนที่เขารู้จักอยู่ เป็นเพื่อนเก่าของเขาเองสมัยที่ยังเป็นเด็ก โดยสถานทีที่กำลังจะไป ถูกเรียกว่า "วังสีเลือด" เพราะมันตั้งอยู่ระหว่าง 2 ซีกโลก ซึ่งสถานที่นี้ เป็นที่ผิดกฏหมายของโลก ซึ่งมีการก่อตั้งสถานที่นี้ขึ้นอย่างลับๆ โดยที่ไม่ให้ฝั่งของวังสีเงินรู้ โดยสถานที่นี้เป็นที่อาศัยของพวกที่ต้องการจะล้มล้างวังสีเงิน แล้วช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในขยะเปื้อนเลือด โดยเลอลิซต้องการจะให้เพื่อนของเขาเข้าองค์กร เพราะเพื่อนของเขามีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พอซิลได้เดินทางมาถึงวังสีเลือด ก็ยังไม่พบอะไร จึงได้เดินไปเรื่อยๆ แล้วได้พบกับตึกร้างแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตึกที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปก็พบกับชายปริศนาคนหนึ่ง ผู้ซึ่งสวมผ้าปิดตา พอชายปริศนานั้นได้หันหน้ามาที่พวกซิล แล้วได้พบเลอลิซ เขาดีใจเป็นอย่างมาก เขาจึงเข้าไปทักทายเลอลิซแบบเป็นมิตร แล้วแนะนำตัวเองให้กับคนอื่นๆว่า เขาชื่อ เนทาส รูดอส (Natass Ruudos) ซึ่งเขาก็ได้ถามเลอลิซว่า พวกคนพวกนี้คือใคร เลอลิซจึงได้อธิบายให้เนทาสฟัง เนทาสได้ยินดังนั้นจึงต้องการที่จะเข้าร่วมองค์กรอย่างไม่ลังเล เพราะเขานั้นต้องการจะเดินทางไปพร้อมๆกับพวกซิลด้วย ซึ่งเขาก็ไดรู้ชื่อของทุกคนแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้บอกเลอลิซว่า ก่อนที่เข้าจะเข้าร่วม เขาต้องการทดสอบฝีมือกับใครซักคน เขาจึงได้เลือกลีเวีย ก่อนที่จะสู้ เขาก็ได้อธิบายพลังของตนให้กับเลอลิซว่า
  4. "พลังของผมคือ แวมไพร์ ครับ คงจะเคยได้ยินจากนิยาย หรือนิทานแล้ว แต่ว่า ของผมน่ะโดนแสงได้นะ แค่ว่าตอนกลางวันจะมองไม่ค่อยชัดน่ะ แถมใช้พลังตอนกลางวันไม่ได้ด้วย ส่วนเรื่องพลังก็แค่มีการดูดเลือดเหมือนกัน แต่ว่าร่างกายจะฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วมากๆ และสามารถปล่อยพลังเลือดได้ด้วย" พออธิบายนจบ ลีเวียก็ได้อธิบายให้ฟังเช่นกัน พอทั้งสองอธิบายให้แก่กันจบ ก็ได้ต่อสู้กันทันที
  5. เนทาสได้รวบรวมเลือดในร่างกายให้กลายเป็นวงกลมสีแดงแล้วอัดไปที่ลีเวีบ ซึ่งลีเวียก็ใช้นำ้กันไว้ได้ แล้วสวนกลับโดยการยิงกระสุนนำ้จำนวนมากออกไปแต่เนทาสก็หลบได้ทั้งหมด โดยเนทาสก็ได้อธิบายว่า
  6. "พลังของผมน่ะ มันจะทำให้ระบบภายในร่างกายดีขึ้น การทำอะไรมันก็คล่องแคล่วไปหมด ส่วนสายตาก็มองได้ชัดเจน" พอพูดเสร็จ เนทาสก็ได้งอกปีกที่เหมือนค้างคาว แล้วบินไปหาลีเวีย แล้วเขาก็ได้ชาร์จพลังงานเลือดไว้ที่ปากของเขาแล้วยิงมันออกไปเหมือนกับคลื่นพลังงานสีแดง ซึ่งเขาตั้งชื่อมันว่า "เทรส" การโดนคลื่นพลังงานเทรสเข้าไปจังๆจะทำให้ร่างกายเหมือนกับถูกเผากันเลยที่เดียว ซึ่งลีเวียก็หลบได้ แต่ก็โดนแขนขวา เขาจึงได้รับบาดเจ็บ แต่ก็พอสู้ไหว จึงได้รวบรวมพลังของนำ้ แล้วปล่อยมันไปเป็นรูปแบบคล้ายกับงูที่เป็นนำ้ขนาดยักษ์ ซึ่งเนทาสก็หลบไม่ทันจึงโดนไปเต็มๆ เนทาสจึงล้มไป เขาจึงได้ยอมแพ้ไป แล้วก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กร Elextra แต่ก่อนที่จะไป เนทาสได้บอกกับซิลว่า เขาต้องการที่จะพาตัวน้องสาวของเขามาด้วย เพราะเธอมีอายุน้อย และยังอยู่คนเดียวไม่ได้ ซิลจึงให้เนทาสไปพาตัวน้องสาวของเขามา โดยเธอนั้นมีอายุราวๆ 4 - 5 ปี และเธอชื่อ อเดเล็ท รูดอส(Adelet Ruudos) ซึ่งเนทาสก็พาเธอมาเพื่อมาดูแล โดยเขาได้บอกว่า เธอนั้นมีพลังในการรักษาได้ทุกอย่าง ยกเว้นตัวของเธอเอง อเดเล็ทเห็นว่าลีเวียบาดเจ็บจึงจับไปที่แขน แล้วลีเวียก็หายบาดเจ็บทันที โดยที่เนทาสบอกลีเวียว่า พลังการรักษาของเธอมันจะใช้พลังงานของเธอ หากเธอรักษามากๆเธอจะเหนื่อยจนหลับไป โดยเธอนั้นเป็นคนไม่ชอบพูด ซิลจึงให้เธอไปนั่งที่โซฟาในยาน ซิลนั้นได้เดินทางไปยังดาวราฟโซดี้ เพื่อไปที่ฐานทัพ แล้วจะทำการวางแผนเตรียมรับมือ กับพวกผู้คนจำนวนมาก ที่กำลังจะมาโจมตีองค์กร Elextra. . .
Advertisement
Add Comment
Please, Sign In to add comment
Advertisement