Advertisement
Not a member of Pastebin yet?
Sign Up,
it unlocks many cool features!
- ประวัตศาสตร์ไทย พุทธ และผี
- ชาติไทยเข้าสู่จุดสูงสุดในสมัยสุโขทัย ความศิวิไลซ์ของสยามเสื่อมถอยลงในสมัยอยุธยาเพราะว่า รับเอาวิถีปฏิบัติและความเชื่อของเขมรมาใช้ เช่น ระบบทาส และ ความเชื่อเรื่องเทวราชา.
- (หน้า๑๙๙หนังสือประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย/คริส เบเคอร์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร/สำนักพิมพ์มติชน ภาษาไทยครั้งแรก)
- ในทางปฏิบัติ เถรวาทแท้ ๆ นั้น ปะปนอยู่กับวิถีปฏิบัติของศาสนาอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งการบวงสรวงเทวรูปฮินดู ความเชื่อเกี่ยวกับอิทธิทธิ์ของผี โดยเฉพาะอำนาจที่จะทำนายล่วงหน้าและส่งอิทธพลสู่อนาคต
- เจ้า ที่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ประทับใจกับเทพเจ้าฮินดูเพราะว่า เจ้าโยงกับอำนาจของตัวเองกับอำนาจของเทพเจ้าฮินดูได้(พระนารายณ์ พระศิวะ) ตามตัวอย่างที่เห็นได้ที่นครวัด
- ดังนั้น กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาจึงรับพราหม์เข้ามาช่วยวางแผนแลประกอบพิธีกรรมในวัง แต่ลัทธิสยามฮินดูนั้นก็ไม่ได้รับความนิยมจนมีคนนับถืออย่างกว้างขวาง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เทพเจ้าฮินดู กลายเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าและได้รับการยอมรับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิเสมือนผี มีอิทธิฤทธิ์ของท้องถิ่น (นิยมให้สิงสถิตอยู่ในศาลพระภูมิ)ดังนั้น พิธีกรรมที่พราหม์ประกอบกิจในรั้วในวังจึงไม่ได้แผ่ขยายออกไปเกินขอบเขตรั้ววังมากนัก(ยกเว้นการตั้งศาลพระภูมิ)
- การนับถือผี ซึ่งอยู่ควบคู่กับศาสนาพุทธนั้น ผู้ทำพิธีกรรมพิเศษจำนวนมาก เป็นผู้หญิง
- เจ้า เห็นช่องทางจะยึดโยงเอาอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติของผีสางเทวดา หรือสิ่งปาฏิหาริย์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิธีปฏิบัติในพุทธศาสนา จึงยึดโยงตัวเองกับอำนาจอิทธิฤทธิ์ของผี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในท้องถิ่น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์,ภูเขาศักดิ์สิทธิ์,แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์,ช้างเผือก,พระธาตุของพระพุทธเจ้าที่ฝังอยู่ในเจดีย์ แลฤาษีรักสันโดด
- อย่างไรก็ตามการยึดโยงดังกล่าวนั้นต้องได้รับความเห็นชองจากพระสงฆ์ ดังนั้น เจ้า และเถรสมาคม จึงต่อรองกันในเรื่องที่ว่า ฝ่ายใดจะจะมีบทบาทเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณ และเป็นผู้นำด้านการเมือง เถรสมาคมจึงต้องมีเจ้าคุ้มครองและอุปถัมภ์ และเพื่อเป็นการตอบแทน เจ้า อาจเรียกร้องอำนาจด้านการบริหารเหนือพระสงฆ์ รวมทั้งเรียกร้องให้สถาบันสงฆ์ยอมรับบทบาทด้านการปกครอง ของเจ้า
- (หน้า ๔๙ หนังสือประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย/คริส เบเคอร์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร/สำนักพิมพ์มติชน ภาษาไทยครั้งแรก)
- อำนาจของกษัตริย์ถูกทำให้ดูยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก แฝงด้วยความลี้ลับ และพิธีกรรมมากมาย พระเจ้าปราสาททอง(พศ.๒๑๗๒-๒๑๙๙)ฟื้นฟูอารยธรรมเขมร เป็นส่วนหนึ่งของไทย ราชวงค์อ้างว่า “สืบสายสัมพันธ์” โยงไปได้ถึงกษัตริย์สมัยนครวัด นำพราหม์จากอินเดียเข้ามาประกอบพิธีกรรมที่พิศดารในราชสำนัก สร้างวัดโดยอิงแบบแปลนของนครวัด มีนัยว่าเป็นที่สถิตของ ทั้งเทวะและกษัตริย์ในเวลาเดียวกัน(หน้า ๔๓)
- หลังราวๆปี พ.ศ.๒๑๕๐ พุทศาสนาแนวเถรวาท ได้รับความนิยมสูง มีการสร้างวัดใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อาจเกี่ยวเนื่องกับการค้าขยายตัว...ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของขุนนาง.กษัตริย์อุปถัมภ์พราหมณ์มากกว่าพุทธ
- พระนารายณ์ (พ.ศ.๒๑๙๙-๒๒๓๑) ทรงสร้างหรือซ่อมวัดไม่กี่วัด ไม่ค่อยทรงออกงานพิธีกรรมของพุทธ และดูเหมือนว่าราชสำนักจะเต็มไปด้วยขุนนางมุสลิมและคริสเตียน พระมหากษัตริย์เปิดรับความรู้ใหม่ๆ ด้วยการส่งราชฑูตไปแลกเปลี่ยนกับ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส เปอร์เซียพระมหากษัตริย์ยอมให้มีเสรีภาพทางศาสนารวมทั้งการแผ่ขยายของศาสนาคริสตร์จนเป็นที่ประทับใจของชาวยุโรป(ขณะเวลาเดียวกันนั้น ทางยุโรปก็ฆ่าฟันกันด้วยเรื่องศาสนา) การเปิดกว้างดังกล่าวนั้น ทำให้พวกฝรั่งเศสและเปอร์เซียหลงเชื่อไปว่า อาจจะชักชวนกษัตริย์และชาวสยามเปลี่ยนศาสนาได้ ความหลงผิดนี้ทำให้เกิดเหตุวิกฤตเมื่อพ.ศ.๒๒๓๑ จนฟอลคอนถูกประหารชีวิต ฝรั่งเศสถูกไล่ออกไป และอังกฤษต้องหลีกหนีออกจากสยาม วิกฤตในพ.ศ.๒๒๓๑พระสงฆ์จัดตั้งฆราวาสให้จับอาวุธเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อสายของพระนารายณ์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป.กษัตริย์ที่สืบต่อจากพระนารายณ์ไม่ได้เป็นสมาชิกของราชวงค์.
- พระเจ้าอยุ่หัวบรมโกศ (พศ.๒๒๗๖-๒๓๐๑)และขุนนางในสมัยของพระองค์ สร้างและซ่อมวัดเป็นจำนวนมากเสียจนภูมิทัศน์เหนือขอบฟ้าของอยุธยาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทรงถือวัตรตามแนวพุทธอย่างเคร่งครัด จนทรงได้รับสมญาว่า"พระธรรมราชา" พระเกียรติคุณเลื่องลือไปถึงศรีลังกา ถิ่นกำเนิดของพุทธเถรวาท โดยศรีลังกาได้ส่งคณะสงฆ์มาขอให้อยุธยาส่งพระสงฆ์ไปช่วยฟื้นฟูสถาบันสงฆ์เถรวาทที่เสื่อมถอยที่ศรีลังกาเสียใหม่. (หน้า ๔๑-๕๑ )
- ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
- ราชาศัพท์ของไทย
- “ระบบความนึกคิด” หรือ รูปการจิตสำนึก(ideology) ผ่านราชาศัพท์ คือ
- วลี " ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม " เราเป็นละอองของฝุ่นใต้ตีน
- 1) เป็นรูปแบบของภาษาที่สถาปนาและปกป้องอุดมการณ์แห่งลัทธิเทวราช
- 2) ภายใต้ราชาศัพท์ตามอุดมการณ์แห่งลัทธิเทวราช ราษฎรไม่มีความเป็นมนุษย์ จึงขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย และหลักสิทธิมนุษยชน
- 3) จะว่าไปแล้ว อุดมการณ์ลัทธิเทวราช ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ที่บัญญัติว่า“พระมหา กษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ”เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้พระมหากษัตริย์นับถือพุทธศาสนา แต่พุทธศาสนาไม่ได้สอนลัทธิเทวราช
- พุทธะไม่ได้ถือว่ากษัตริย์เป็น“เทวราช”แต่ถือว่าเป็น“สมมติราช”
- ****************************************
Advertisement
Add Comment
Please, Sign In to add comment
Advertisement